Category: สาระประโยชน์แมว

ลักษณะนิสัยของแมวไร้ขน สายพันธุ์สฟิงซ์

Sphynx cat cute

แมวสฟิงซ์ (Sphynx) เป็นแมวที่มีลักษณะพิเศษเป็นที่รู้จักกันดีว่ามันเป็นแมวไม่มีขน ซึ่งในตามจริงการไม่มีสำหรับแมวอาจเป็นการกลายพันธุ์ของยีนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามเจ้าแมวสฟิงซ์ก็ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่คัดเลือกมาอย่างดี ลักษณะเด่นของมันได้แก่ มีผิวหนังคล้ายกับของเลียงผา มีขนสั้นตามลำตัว หรืออาจไม่มีขนเลยซักเส้น มีหัวที่แคบยาว เนื่องจากไม่มีขนทำให้พวกมันสูญเสียความร้อนในร่างกายมากกว่าแมวปกติทั่วไป นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมตัวของมันจึงอุ่นเป็นพิเศษอยู่ตลอดเวลา และต้องการที่จะหาความอุบอุ่นจากแหล่งความร้อนต่างๆ เช่น ร่างกายของมนุษย์ พฤติกรรมของเจ้าเกมสฟิงซ์ คนที่รักในการใช้ชีวิตร่วมกับสฟิงซ์ส่วนใหญ่บอกว่ามันต่างจากแมว “ปกติ” เพราะแมวสายพันธุ์นี้ชอบเข้าสังคมเป็นพิเศษ ชอบที่จะมาคลุกคลีกับเจ้าของอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาต้องการความอบอุ่น มักจะแสดงระดับพลังงานที่มาก มีสติปัญญา ความอยากรู้อยากเห็น มีลักษณะนิสัยคล้ายกับหมามากกว่าเสียอีก ชอบที่จะไปยืนรอรับเจ้าของที่ประตูบ่อย เป็นมิตรเมื่อพบคนแปลกหน้า เนื่องจากพวกมันเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบอยู่ลำพัง หากคนเลี้ยงจะต้องปล่อยให้มันอยู่บ้านตัวเดียวควรจะมีพวกมัน 2 ตัวให้วิ่งเล่นเป็นเพื่อนกันในบ้าน ไม่ว่าคุณจะทำอะไรอยู่ตรงไหนของมัน เจ้าสฟิงซ์จะคอยตามติดคุณอยู่ไม่ห่างเพื่อเป็นสัญญาณว่าต้องการที่จะช่วยเหลือ นอกจากนี้เขายังจะเป็นผู้ดูแลต้อนรับแขกที่บ้านเป็นอย่างดี มันเป็นแมวที่มีสเน่ห์จะทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดความสนใจ ดังนั้นผู้เลี้ยงจะเห็นมันทำท่าทางแปลกๆ ให้ขำอยู่เสมอ อีกอย่างคือความกล้าที่ไม่กลัวต่อสิ่งใดทำให้มัน ปัญหาเรื่องสุขภาพ แมวทุกตัวมีสามารถประสบปัญหาสุขภาพทางพันธุกรรม หากมีผู้เพาะพันธุ์ใดก็ตามที่อ้างว่าสายพันธุ์ของพวกเขาไม่มีปัญหาสุขภาพ บอกได้เลยว่าพวกเขากำลังโกหกหรือไม่มีความรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์ดังกล่าว โดยทั่วไปแล้วแมวสฟิงซ์มีร่างกายที่แข็งแรง ปัญหาที่พบสวนใหญ่คือ โรคกล้ามเนื้อหัวใจ (Hypertrophic cardiomyopathy) เป็นรูปแบบที่พบบ่อยที่สุดของโรคหัวใจในแมว ดังนั้นหลีกเลี่ยงคนขายที่โฆษณาว่าแมวพวกเขาปราศจาก HCM เพราะไม่มีใครรับรองได้หรอกว่าพวกมันจะไม่มีโอกาสเป็นโรคดังกล่าว นอกจากนี้ก็ยังอาจมีปัญหาทางด้านผิวหนังด้วยเช่นกัน สิ่งที่ควรทำคือการหมั่นแปลงฟันให้กับสฟิงว์ ด้วยยาสีฟันที่ผลิตขึ้นมาสำหรับแมวโดยเฉพาะเพื่อสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์ ห่างไกลจากเชื้อโรคนานาชนิด

อาหารที่แมวไม่ควรกิน ไม่งั้นจะทำให้เกิดอันตราย

Cat food should not eat

สามารถกินได้ รวมถึงการดูโภชนาการที่จำเป็นต่อร่างกายตลอดเวลา เพื่อให้สัตว์เลี้ยงของเราอยู่เป็นเพื่อนคู่ชีวิตกันนานๆ เรามาดูการป้องกันก่อนดีกว่า โดยเฉพาะอาหารบางชนิดที่เราไม่คาดคิดอาจจะเป็นพิษต่อสุขภาพของแมวได้ บ้างอาจจะมีอาการซึม หรือร้ายแรงกว่าอาจถึงขั้นตายได้เลย ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง หัวหอม และกระเทียม ทั้ง หัวหอมและกระเทียมสามารถทำอันตรายกับร่างกายของแมวได้โดยตรง โดยทำลายเซลเม็ดเลือดแดงในร่างกาย จนเป็นสาเหตุของโรคโลหิตจางในสัตว์ หากกินในปริมาณที่มากจะเป็นพิษอย่างร้ายแรง อาการที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้แมวมีอาการเซืองซึม ไร้เรี่ยวแรง เหงือกแห้ง มีน้ำปัสสาวะสีส้ม หรือสีแดงเข้ม หากมีอาการเหล่านี้ควรนำไปส่งรักษากับสัตว์แพทย์ในทันที ไข่ดิบ เนื้อสด และกระดูก เหมือนกับร่างกายของมนุษย์ การกินไข่ดิบ หรือเนื้อดิบจะส่งผลให้เกิดการสะสมเชื้อโรคซาลโมเนลล่า ที่เป็นเชื้อโรคที่ทำให้เกิดอาการลำไส้อักเสบ หรือเชื้ออีโคไล อาการต่างๆ เปลี่ยนไปมาตลอดเวลาอาจจะมีมากมีน้อยขึ้นอยู่ตามสภาพแวดล้อม อาจจะมีการอาเจียน ท้องเสีย เซืองซึม เชื้อโรคทั้งสองชนิดสามารถส่งต่อสู่คนได้ ดังนั้นควรล้างมือหลังทำอาหาร และเก็บของสดไว้ให้ห่างจากสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะไข่ไก่ และกระดูก ทั้งสองมีส่วนผสมของเอนไซม์ที่จะทำให้ผิวหนังและขนของแมวผิดปกติ หรืออาจสำลัก จนไปถึงเกิดความเสียหายทางระบบย่อยอาหาร วิธีป้องกันไม่ให้แมวกินอาหารที่เป็นอันตราย สุขภาพของแมวขึ้นอยู่กับอาหารการกินของทุกวัน การเก็บของที่เป็นพิษ และจำพวกเสี่ยงให้ห่างจากมือของแมวเป็นสิ่งแรกที่ควรทำ รวมถึงการดูแลให้กินอาหารอย่างอุดมสมบูรณ์ เพื่อช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และนี่เป็นทิปเล็กๆ น้อยๆ ที่ควรลองนำไปทำตาม เก็บอาหารไว้ให้ห่างจากแมว การใส่ไว้ในตู้เก็บของบนชั้นอาจจะไม่ปลอดภัยอย่างที่คิดกับน้องแมวที่อยากรู้อยากเห็น หรือเรียกง่ายๆ ว่าซน […]